Custom Search

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

รายจ่ายประจำของการใช้รถยนต์

รายจ่ายประจำหรือต้นทุนคงที่ในการใช้รถยนต์ หมายถึงรายจ่ายที่ท่านจะต้องจ่ายเสมอไม่ว่าท่านจะใช้รถยนต์เป็นเวลานานเท่าใด จำนวนไมล์สูงเพียงใดหรือมีรายจ่ายเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุกี่ครั้ง เพราะรายจ่ายประจำของรถยนต์ที่สำคัญก็คือรายจ่ายค่าเสื่อมราคารถยนต์ รายจ่ายค่าประกันอุบัติเหตุ รายจ่ายค่าผ่อนชำระและดอกเบี้ยเงินกู้ในการซื้อรถยนต์แบบผ่อนชำระ รวมถึงรายจ่ายในการทำใบขับขี่และการต่อทะเบียนรถยนต์ประจำปีด้วย

รายจ่ายแปรได้ของการใช้รถยนต์

ค่าใช้จ่ายแปรได้ของการใช้รถยนต์ หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากการใช้รถยนต์หรืออาจเรียกว่าใช้จ่ายในการดำเนินงานก็ได้ ซึ่งรายจ่ายแปรได้ที่สำคัญของการใช้รถยนต์สามารถจำแนกออกได้เป็น 2 หมวด คือ

1. ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ในการที่จะทำให้รถนั้นสามารถใช้งานได้ ซึ่งได้แก่ รายจ่ายค่าน้ำมันเบนซิน น้ำมันเครื่อง และค่าบำรุงรักษา
2. ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถยนต์เพื่อให้รถยนต์อยู่ในสภาพที่ใช้การได้เสมอ

1.รายจ่ายค่าน้ำมันเบนซิน
ในปัจจุบันรถยนต์สามารถใช้น้ำมันดีเซล และแก๊สแทนได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านมีรถที่มีประสิทธิภาพปนการประหยัดน้ำมันแล้ว ท่านจะมีรายจ่ายรายการนี้ลดลงเป็นอย่างมาก และรถยนต์ใหม่มักจะมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันได้ดีกว่ารถยนต์เก่า
ผู้บริโภคที่ฉลาดมักไม่ใช้วิธีซื้อรถคันใหม่ เพียงเพื่อหวังที่จะมีการประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นเท่านั้น แต่เขาควรจะมีวิธีการใช้รถเก่าให้มีประสิทธิภาพ จะเป็นการกระทำที่ถูกต้องมากกว่า ซึ่งวิธีการใช้รถยนต์ที่จะทำให้เกิด การประหยัดน้ำมันมากขึ้น มีดังนี้

1. ควรขับรถช้าๆ ในอัตราที่คงที่ คืออยู่ในระดับความเร็วประมาณ 50 ไมล์ต่อชั่วโมง จะเป็นอัตราที่ทำให้ท่านประหยัดน้ำมันได้มากที่สุด นอกจากนั้นท่านไม่ควรติดเครื่องรถยนต์ หรือมีการเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถอย่างรวดเร็วเพราะการขับรถด้วยความเร็วสูงจะเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันมาก ทั้งยังทำให้รถสึกหรอเร็วขึ้นด้วย
2.ไม่ควรขับรถช้าต่ำกว่าอัตรา 50 ไมล์ต่อชั่งโมง เพราะการขับรถในอัตราความเร็วที่ต่ำ
กว่าอัตราดังกล่าวแทนที่จะทำให้ท่านประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น
3.เติมลมยางรถยนต์ของท่านให้สูงกว่าระดับที่กำหนดไว้ในคู่มือรถยนต์ เพราะการมียาง
รถยนต์ที่แข็งจะช่วยให้ท่านประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น
4.ละเว้นการใช้เครื่องปรับอากาศในขณะที่ท่านขับรถในอัตราความเร็วต่ำ เพราะจะทำให้ทานประหยัดเชื้อเพลิงลงได้ ถึงประมาณร้อยละ 10-20 ทีเดียว แต่ในทางตรงข้ามที่ท่านกำลังขับด้วยความเร็วสูงการใช้เครื่องปรับอากาศจะทำให้ท่านสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยกว่าการงดใช้เครื่องปรับอากาศ และทำการเปิดหน้าต่างรถยนต์แทน
5.ในฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวเย็น ท่านจะสามารถเติมน้ำมันได้ในจำนวนที่มากกว่าการเติมน้ำมันในฤดูร้อนที่มีอากาศร้อย เนื่องจากน้ำมันมีการขยายตัวและเต็มถังได้เร็วกว่าการเติมน้ำมันในฤดูหนาว ซึ่งหมายความว่าฤดูกาลมีส่วนที่จะทำให้ท่านสามารถประหยัดน้ำมันได้เช่นกัน
6.ไม่บรรทุกของสัมภาระที่หนักเกินไป เพราะจะทำให้รถมีน้ำหนักมาก และต้องใช้กำลังในการเคลื่อนสูงจึงมีการสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าที่ควร

2. รายจ่ายซื้อยางรถยนต์
โดยปกติโดยทั่วไปแล้วเจ้าของรถยนต์ควรมีการเปลี่ยนยางรถยนต์ เมื่อท่านได้ใช้รถยนต์ไปเป็นระยะทางประมาณ 40,000 ไมล์ หรือเป็นระยะเวลาประมาณ 4 ปี โดยเฉลี่ย ถ้ายางรถยนต์ของท่านเป็นยางคุณภาพดี แต่ถ้าท่านใช้ยางรถยนต์คุณภาพด้อยแล้ว อายุการใช้งานของยางรถยนต์ก็ใช้ได้เพียงจำนวนระยะทาง 15,000 – 25,000 ไมล์เท่านั้น ดังนั้นในระยะเวลา 4 ปี ที่ท่านต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ แต่จะเป็นจำนวนมากน้อยเท่าใดย่อมขึ้นอยู่กับชนิดของยางรถยนต์ที่ท่านเลือกใช้ด้วย
การใช้ยางรถยนต์ที่ดี จะช่วยให้ท่านสามารถประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นประมาณร้อยละ3-5 ดังนั้นการเลือกใช้ยางรถยนต์ที่ดีจะช่วยให้ท่านมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นได้ ท่านจึงควรซื้อยางรถยนต์จากร้านค้าที่ท่านคุ้นเคย โดยเฉพาะถ้าเป็นการเลือกซื้อจากผู้ขายที่มีชื่อเสียงด้วยจะช่วยให้ท่านมั่นได้ว่าท่านจะได้ยางรถยนต์ตามที่ต้องการ ในการเลือกซื้อยางรถยนต์ท่านควรมีข้อพิจารณา
1. ไม่ควรเลือกซื้อยางรถยนต์ที่มีขนาดเล็กกว่ายางรถยนต์เดิม ที่มีมากับรถยนต์ในการซื้อครั้งแรก
2. ใช้ยางรถยนต์ชนิดเดียวกับยางรถยนต์ที่ติดมากับรถครั้งแรก ถ้าท่านไม่มีความนำเป็นจะต้องเปลี่ยนชนิดของยางเพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่งโดยเฉพาะ เช่น เพื่อการให้เช่ารถ
3. ควรใช้ยางรถยนต์ประเภทเดียวกันทั้ง 4 ล้อ อย่าใช้ยางรถยนต์หลายๆ ประเภทในรถคันเดียวกัน เช่น บางล้อเป็นยางรถยนต์แบบ Radian หรือบางล้อเป็นแบบ Belted bias ply และถ้าท่านมีงบประมาณเพียงพอท่านควรใช้ยางแบบ Radian ทุกล้อจะช่วยให้ท่านประหยัดรายจ่ายในการซื้อยางยนต์ใหม่ได้มากขึ้น
4. ในการขับรถโดยใช้ยางรถยนต์ใหม่นั้น สำหรับระยะทาง 50 ไมล์แรก ท่านควรขับด้วยความเร็วไม่เกินอัตรา 55 ไมล์ต่อชั่วโมง เพื่อปรับให้ยางเริ่มใช้งานได้เข้าที่กับรถยนต์ และควรตรวจสอบและเติมลมยางรถยนต์โดยไม่ให้ยางแฟบได้ เพื่อเป็นการยืดอายุยางรถยนต์ให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น
3. รายจ่ายค่าบำรุงรักษารถยนต์
ถ้ารถยนต์ของท่านมีอายุการใช้งานมานานแล้ว หรือเป็นรถยนต์รุ่นเก่า ย่อมมีความต้องการที่จะได้รักการดูแลรักษาเพิ่มขึ้น ในขณะที่รถยนต์ใหม่อาจอยู่ในความคุ้มครองของบริษัทรับประหัน สำหรับรายการค่าซ่อมแซมที่ท่านจำเป็นต้องดูแลส่วนใหญ่มักเป็นการตั้งเบรคใหม่ การเปลี่ยนท่อน้ำใหม่ การเปลี่ยนโช้คอัพ เป็นต้น

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Popular Posts