MBA

We constantly research and disseminate knowledge to prepare graduate students to be leaders at the community, national and international levels.

Facebook is a social utility that connects people with friends and others who work, study and live around them. People use Facebook to keep up with friends

Custom Search

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การใช้นโยบายการเงิน(Monetary Policy)

เมื่อธนาคารกลางต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจจะใช้นโยบายการเงินแบบขยายตัว(ExpansionMonetary Policy) เป็นการเพิ่มปริมาณเงินทำให้เส้นอุปทานของเงินจะเลื่อนไปทางขวา ดุลยภาพเปลี่ยนแปลงจากจุด A ไปยังจุด Bพบว่า ความต้องการถือเงินในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจาก M1 เป็น M2และอัตราดอกเบี้ยลดลงจาก 3 r เหลือ 4 r การเงินขยายตัวมักใช้กับภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำมีการว่างงาน เพราะเมื่อเพิ่มปริมาณเงินแล้วทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลงทำให้การบริโภคและการลงทุนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นส่งผลให้ความต้องการใช้จ่ายรวม(DAE)ในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจจะขยายตัว อย่างไรก็ตาม การใช้นโยบายขยายตัวมากเกินไปจะทำให้เกิดเงินเฟ้อในทางตรงข้าม หากเศรษฐกิจที่เป็นอยู่มีการเก็งกำไรมาก มีความต้องการมากกว่าผลผลิตศักยภาพ เกิดปัญหาเงินเฟ้อมาก ธนาคารจะเลือกใช้นโยบายการเงินแบบหดตัว(Contraction MonetaryPolicy) เป็นการลดปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ...

การสร้างเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ (Money Creation)

แนวคิด คือ เงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์และการให้สินเชื่อ(การปล่อยกู้) จะทำให้ปริมาณเงิน (Money supply) ในระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป- กระบวนการสร้างเงินฝากของธนาคารพาณิชย์สามารถอธิบายได้โดยใช้งบดุล (Balancesheet) หรือ “T-Account” แสดงรายการ 1. สินทรัพย์ (Assets)และ 2. หนี้สินและทุน(Liabilities andcapital)- เงินฝากขั้นแรก (Primary deposits) คือ เงินสดที่มีผู้นำมาฝากเข้าบัญชีเงินฝากกระแสรายวันที่ธนาคารพาณิชย์ ในจำนวนนี้ธนาคารจะเก็บสำรองไว้ส่วนหนึ่ง เรียกว่าอัตราเงินสำรอง (Reserve ratio)อัตราเงินสำรองแบ่งได้ 2 ประเภท คือ 1.)อัตราเงินสำรองตามกฎหมาย(Legal reserve ratio: r) 2.)อัตราเงินสำรองส่วนเกิน(Excess reserve ratio:re )ข้อสมมติสำหรับการวิเคราะห์การสร้างเงินฝากสูงสุด1.อัตราเงินสดสำรองส่วนเกินเท่ากับ 02. ธนาคารที่ได้รับเงินฝากขั้นแรกจะนำเงินสดหลังหักสำรองตามกฎหมายไปปล่อยกู้ทั้งหมด3. ผู้กู้เงินจากธนาคารจะไม่เบิกเป็นเงินสดแต่จะเปิดบัญชีกับธนาคารพาณิชย์นั้นหรือธนาคารอื่นๆก็ได้4....

คำนิยามของเงินในระบบเศรษฐกิจ

เงินสด(Currency) คือ เงินที่เป็นธนบัตรและเหรียญที่อยู่กับสาธารณชน ไม่รวมที่อยู่ในระบบธนาคารเงินฝากกระแสรายวัน (demand deposits) คือ เงินฝากของสาธารณชนในระบบธนาคาร โดยเจ้าของบัญชีสามารถเขียนเช็คชำระหนี้ได้ มีสภาพคล่องสูงรองจากเงินสดปริมาณเงินตามความหมายอย่างแคบ(Narrow money: M1) คือ เงินสด+เงินฝากกระแสรายวันปริมาณเงินตามความหมายอย่างกว้าง(Board money: M2) คือ M1 +เงินฝากประจำ (Timedeposits)+เงินฝากออมทรัพย์ (Saving deposits)ปริมาณเงินตามความหมายอย่างกว้างมาก(M3) คือ M2 +ตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัทเงินทุนที่ถือโดยภาคเอกชน (Promissory notes)อแตกต่างระหว่างธนาคารกลางกับธนาคารพาณิชย์1.) ธนาคารกลางไม่ใช่สถาบันที่แสวงหากำไร2.) ธนาคารกลางไม่ดำเนินธุรกิจแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์3.) ลูกค้าของธนาคารกลาง คือ ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินอื่นๆ และหน่วยงานของรัฐ แต่ลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ คือ ประชาชนทั่วไป4.)...

หน้าที่ของเงิน(The functions of money) ในระบบเศรษฐกิจ

1.)เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน(Medium of Exchange)ทำหน้าที่อำนายความสะดวกและทำให้เกิดการแบ่งงานกันทำเพราะแต่ละคนจะทำอาชีพที่ตนมีความถนัดมากที่สุดเมื่อได้เงินก็นำไปซื้อสินค้าและบริการอื่นๆ2.) เป็นมาตรฐานการวัดค่า(Standard of Value)ทำให้สินค้าและบริการทุกชนิดถูกประเมินเป็นเงินตราเดียวกัน สะดวกในการเปรียบเทียบมูลค่าและเป็นประโยชน์ในการทำบัญชี ที่สามารถบวกลบกันได้โดยตรงเพราะมีหน่วยเดียวกัน ตัวอย่างของการเปรียบเทียบเช่น ปากการาคา 5 บาท แต่ดินสอราคา 10 บาท แสดงว่า ปากกา 2 ด้ามมีค่าเท่ากับดินสอ1 แท่ง เป็นต้นคำถาม: ท่านคิดว่าถ้าโลกนี้มีสินค้าและบริการ N ชนิด หากกำหนดให้ของแลกของกันโดยตรงจะต้องมีการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนกี่อัตรา3.) เป็นมาตรฐานการชำระหนี้ภายหน้า (Standard of deferred payments)ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ทำให้ธุรกรรมการซื้อเชื่อขายเชื่อดำเนินไปได้อย่างสะดวก เพราะทุกคนเชื่อว่าเงินสามารถชำระหนี้ได้4.)...

อุปสงค์ของเงิน

อุปสงค์ของเงิน(Demand for Money Theory) หรือความต้องการถือเงิน ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ สี่ประการคือ ระดับราคา(The Level of Price) ระดับอัตราดอกเบี้ย(The Level of Interest Rate) ระดับผลิตภัณฑ์ในประเทศแท้จริง(Real GDP) และระดับนวัตกรรมทางการเงิน(The Pace of Financial Innovation) ซึ่งอุปสงค์ของเงินสามารถอธิบายระดับอัตราเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี ทฤษฎีความต้องการถือเงินแบ่งออกเป็นสองสำนักใหญ่คือ สำนักคลาสสิค และเคนส์ ซึ่งแต่ละสำนักประกอบด้วยทฤษฎีความต้องการถือเงินสำคัญดังนี้อุปสงค์ของเงิน(Demand for Money Theory) หรือความต้องการถือเงิน ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ สี่ประการคือ ระดับราคา(The Level of Price) ระดับอัตราดอกเบี้ย(The Level of Interest Rate) ระดับผลิตภัณฑ์ในประเทศแท้จริง(Real GDP) และระดับนวัตกรรมทางการเงิน(The Pace of Financial Innovation) ซึ่งอุปสงค์ของเงินสามารถอธิบายระดับอัตราเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี...

Pages 371234 »

Popular Posts